KriYoga Asoke
ท่ามกลางความเครียด ภาวะเศรษฐกิจ ภาระต่างๆ ที่เราต้องรับผิดชอบ หรือสิ่งอื่นๆ ที่เราต้องเผชิญในแต่ละวัน เรามักจะจมอยู่กับคิดของตัวเอง หาหนทางแก้ไขปัญหาต่างๆ ทำให้ต้องเก็บกักอารมณ์ความรู้สึกไว้มากมาย วันดีๆ ของแต่ละคนมักจะเกิดขึ้นพร้อมกับอารมณ์ที่ดีด้วย แต่ถ้าคุณฝึกโยคะเป็นประจำคุณก็จะสามารถอารมณ์ดีขึ้นทุกครั้งที่ก้าวไปบนเสื่อโยคะ คำว่าโยคี หมายถึง บุคคลที่ฝึกฝนการออกกำลังกายที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมจิตใจและร่างกายไปพร้อมกัน เพราะเราไม่สามารถควบคุมปัจจัยภายนอกที่เกิดขึ้นรอบตัวของเราได้ ทำได้เพียงแต่ควบคุมการกระทำของตัวเราเองที่จะตอบสนองกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ไม่ว่าจิตใจของคุณจะล่องลอยไปอยู่ที่ไหนก็ตามเมื่อคุณก้าวขึ้นบนเสื่อโยคะ คุณจะรู้ดีอยู่อย่างหนึ่งว่าการฝึกโยคะเป็นประจำจะช่วยให้คลายความกังวล และช่วยเปิดสมองส่วนที่ช่วยให้คุณรู้สึกสงบนิ่งลงได้ เมื่อคุณรู้สึกถึงความสุขที่ปลดปล่อยออกมา คุณจะมีความรู้สึกนึกคิดที่ดีขึ้น เพราะคุณรู้สึกถึงความผ่อนคลายและความเครียดที่หายไป
อยากรู้วิธีหายใจเพื่อปลดปล่อยความเครียดและความกังวล คลิกที่นี่
การฝึกโยคะทั่วไปช่วยทำให้ร่างกายและจิตใจมีความแข็งแรง แต่ก็มีท่าโยคะบางท่าที่ช่วยสามารถปรับอารมณ์ของคุณให้ดีขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ส่วนใหญ่จะเป็นท่ากลับหัว (Inversions) เพราะช่วยทำให้เราเห็นโลกในมุมมองที่แตกต่าง คนส่วนใหญ่พอพูดถึงท่ากลับหัวก็จะนึกถึง handstands จริงๆแล้วท่ากลับหัวหมายรวมถึงท่าอะไรก็ตามที่เราต้องเอาหัวลงต่ำกว่าหัวใจของเรา ซึ่งช่วยทำให้เราอารมณ์ดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
ลองทำ 9 ท่าต่อไปนี้ที่จะช่วยเปลี่ยนอารมณ์ของคุณเมื่อไรที่คุณต้องการ
1.ท่าภูเขา (Mountain Pose/Tadasana) ท่านี้ทำให้คุณรู้สึกมีพลังมากขึ้นและติดดินมากขึ้น ช่วยทำให้รู้สึกร่างกายและจิตใจรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ช่วยทำให้ระบบประสาทสงบนิ่งลง เพียงแค่คุณยืนเท้าเปล่า ฝ่าเท้าและนิ้วเท้าแนบแน่นอยู่บนพื้น กางแขนออกเหนือศรีษะ เปิดอก เงยหน้า หายใจเข้าออกช้าๆ ลึกๆ และที่สำคัญต้องยิ้มด้วย (ท่านี้แนะนำให้ทำเวลาคุณยืนอยู่ริมทะเลหรือบนเขา คุณจะรับรู้ถึงพลังมากขึ้น) ควรอยู่ในท่านี้ 5 ลมหายใจ
2.ท่ากางขาก้มตัว (Prasarita Padottanasana I) เมื่อคุณอยู่ในท่านี้ความเครียดและความคิดลบจะหายไป ทำให้เกิดความว่างขึ้นภายในใจของคุณ คุณจะได้มองเข้าไปในใจของตัวเองและปล่อยวาง จากท่าภูเขา (Mountain Pose) กางขวากว้างออกประมาณ 3-4 ฟุต ฝ่าเท้า 2 ข้างขนานกัน พับลำตัวลงจากสะโพก พยายามกดนิ้วเท้าและฝ่าเท้าให้ติดแน่นกับพื้นเพื่อความมั่นคงและแข็งแรง พยายามก้มศรีษะให้ต่ำลงและพยายามยืดแนวกระดูกสันหลังให้มากที่สุด ส่วนมือทั้ง่ 2 ข้างจับด้านนอกของฝ่าเท้าเพื่อสามารถดึงลำตัวเพื่อจะยืดได้มากขึ้น อยู่ในท่านี้ประมาณ 5 ลมหายใจ
3. ท่าสุนัขแลลง (Downward Facing Dog/Adho Mukha Svanasana) ท่านี้คงจะเป็นท่าที่หลายๆ คนชื่นชอบ เพราะทำให้ยืดได้ทั้งตัว เป็นท่ากลับหัวที่สมบูรณ์แบบ ท่านี้ช่วยคลายความเครียดและลดความรู้สึกหดหู่ ทำให้สมองผ่อนคลาย เริ่มจากท่า Table Top กดฝ่ามือให้แนบแน่นกับพื้น ยกสะโพกขึ้น พยายามยืดขาตรงให้มากที่สุดและกระดกปลายเท้าขึ้น อาจจะงอเข่าเล็กน้อย มองตรงไประหว่างต้นขาและจินตนาการว่ามีเชือกกำลังดึงอกของคุณให้ไปใกล้ต้นขา พยายามกดเสื่อโยคะ และยืดกระดูกสันหลังให้มากขึ้น จากนั้นผ่อนคลายคอ โดยปล่อยศรีษะห้อยลง
4. ท่าสุนัขยกขา (Downdog Crunch/Adho Mukha Svanasana Variation) จากท่าสุนัขแลลง หายใจเข้า งอเข่า 1 ข้าง หายใจออกดึงเข่าเข้าหาจมูกหรือใกล้หน้าอกให้มากที่สุด ส่วนเท้าอีกข้างให้ยกส้นเท้าขึ้น เหมือนเขย่ง และพยายามโค้งหลังของคุณเพื่อให้ใกล้ต้นขามากขึ้น ทำสลับกันทั้ง 2 ข้าง ข้างละ 5 ครั้ง ท่านี้สำหรับบริหารแกนกลางลำตัวของคุณ คุณจะรู้สึกถึงพลังที่ส่งไปถึงร่างกายและจิตใจของคุณ ทำให้รู้สึกมีพลังและทำให้รู้สึกอารมณ์ดีขึ้น
5.ท่ากระดานขาเดียว (One Leg Plank Pose/Eka Pada Phalakasana) ความแข็งแกร่งที่มาจากท่ากระดานเปรียบเสมือนกระแสไฟฟ้าแล่นผ่าน ท่านี้ช่วยออกกำลังกายทุกส่วน และยังเหมือนการจุดระเบิดให้กับอารมณ์ความรู้สึกของเรา โดยเฉพาะเมื่อคุณยก่ขา 1 ข้าง คุณจะรู้สึกเหมือนคุณบินได้ด้วยพลังนี้ เริ่มจากท่า Table Top จิกปลายเท้าลงที่พื้นและยกเข่าขึ้นยืดให้ตรงสู่ท่ากระดาน พยายามงอก้นกบไปข้างหน้าเพื่อใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนล่าง และพยายามสูบสะดือเข้าเหมือนติดกระดูกสันหลัง เพื่อให้ได้ใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องทั้งหมด จินตนาการว่ามีเชือกดึงหน้าอกไปข้างหน้า ตามองตรงไปที่พื้นด้านหน้า 3-4 นิ้วจากฝ่ามือของคุณ สังเกตหัวไหล่จะต้องอยู่ตรงกับระดับข้อมือของคุณ ส้นเท้าอยู่เหนือปลายเท้า พยายามแน่วแน่อยู่กับท่า เกร็งหน้าท้องและยกขาขึ้น 1 ข้าง คุณจะรู้สึกถึงพลัง ทำสลับกันทั้ง 2 ข้าง
6. ท่างูเห่า (Cobra Pose/Bhujangasana) ท่านี้เป็น1 ในท่าที่ช่วยเปิดหัวใจที่แข็งแรงที่สุด ท่านี้ช่วยให้ขจัดความอ่อนล้าและทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น เพราะช่วยคลายความเครียด คลายความแข็งเกร็งของร่างกาย โดยเฉพาะร่างกายส่วนบน ช่วยเปิดปอดทำให้ได้รับออกซิเจนมากขึ้น ซึ่งจะทำให้สมองปลอดโปร่ง เริ่มด้วยการนอนคว่ำ วางฝ่ามือใต้หัวไหล่ ดึงข้อศอกให้ติดกับลำตัว พยายามให้นิ้วหัวแม่เท้าทั้ง 2 ข้างชิดกันให้มากที่สุด พยายามใช้กล้ามเนื้อส่วนล่าง กดนิ้วเท้า หลังเท้า ต้นขา และกระดูกเชิงกรานให้แนบกับเสื่อ พยายามกดฝ่ามือเพื่อยกอกขึ้นจากพื้น พยายามสูบสะดือให้ใกล้กระดูกสันหลัง คุณสามารถงอข้อศอกหรือยืดก็ได้ หมุนไหล่ไปด้านหลัง ยกหัวใจขึ้น
7. ท่าก้มตัวด้านหน้า (Forward Fold/Uttanasana) ท่านี้เป็นท่ากลับหัวแบบง่ายๆ ที่ช่วยให้คลายความกังวล ลดความเหนื่อยล้า และแก้อาการนอนไม่หลับ ทั้งยังช่วยยืดกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังและหลังส่วนล่างได้ดี การก้มหัวลงต่ำกว่าหัวใจ ช่วยทำให้สมองผ่อนคลาย คุณจะรู้สึกสุขสงบมากขึ้น เริ่มจากท่าภูเขา (Mountain Pose) ยืนกางขากว้างเท่าช่วงสะโพก วางมือบนสะโพกและก้มตัวไปด้านหน้าช้า ๆ รู้สึกถึงศรีษะห้อยลง งอเข่าเล็กน้อย หายใจเข้าลึก ๆ ผ่อนคลายร่างกาย เมื่อหายใจออกพยายามยืดเข่าให้ตรง ผ่อนคลายจิตใจ ในขณะที่ศรีษะห้อยลงจากช่วงคอ หรือคุณอาจเอามือจับข้อศอกฝั่งตรงข้าม หรือล็อคฝ่ามือ 2 ข้างจากด้านหลังแล้วดึงไปเหนือศรีษะด้านหลัง เพื่อช่วยเปิดหัวไหล่
8.ท่าผีเสื้อ (Butterfly Pose/Baddha Konasana) ท่านี้เป็นท่าที่ช่วยทำให้รู้สึกปลอดภัย รู้สึกถึงความว่าง ช่วยขจัดความคิดลบต่างๆ ท่านี้ช่วยเปิดสะโพกและทำให้สะโพกแข็งแรง เพราะสะโพกเป็นสถานที่เก็บอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ รวมถึงความเครียด เริ่มจากท่านั่งนำฝ่าเท้าทั้งสองเข้าชิดกัน ขาทั้งสองข้างขอเข้าหาเป็นรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ประสานนิ้วมือทั้งสองสอดไว้ใต้ฝ่าเท้า ยืดแขนตรง เปิดอก เงยหน้า หายใจเข้าลึก ๆ หายใจออก ดึงหน้าอกไปข้างหน้า หัวไหล่ห่างหู พยายามยืดลำตัวไปข้างหน้า หลังไม่งอ ก้มหน้าหาฝ่าเท้า ใช้นิ้วโป้งมือทั้งสองข้าง กดนวดที่ฝ่าเท้าไปด้วย
9. ท่านอนยกขาพิงผนัง (Legs up the wall/Viparita Karani) ท่านี้เป็นอีกท่าที่ช่วยคลายความเครียดได้ดี ทำให้อารมณ์ดีขึ้น เพียงยกขาให้อยู่เหนือหัวใจ ทั้งยังช่วยเรื่องการหมุนเวียนโลหิต ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น ความจำดีขึ้น มีสมาธิมากขึ้น ง่ายๆ เพียงนอนห่างเล็กน้อยจากผนัง ยกขาทั้งสองพิงกับผนัง ผ่อนคลายไหล่และศรีษะบนเสื่อ พยายามให้ต้นขาด้านหลังชิดผนังมากที่สุด หลับตาผ่อนคลายไปกับท่านี้
